หน้าเว็บ

ประกันภัยรถยนต์

วันพุธที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

2012 Honda CR-V Generation ตัวใหม่ไฉไลกว่าเดิม

ถึงแม้จะมีการเปิดตัว รถยนต์ของ Honda New Honda CR-V รุ่น Production ทั้งในญี่ปุ่นและอเมริกาทั้งนี้ทั้งนั้นในยุโรปถือว่าช้ากว่าตั้ง 2ก้าว เนื่องด้วยว่าทางด้าน Honda กำลังจะเปิดตัวรุ่น CR-V Generation รุ่นใหม่ในงาน Geneva Motor Show 2012 ซึ่งเป็นรถรุ่น Prototype แต่ก่อนที่จะมีการจัดมาจำหน่ายไปทั่วยุโรปในฤดูกาลที่ผ่านมาเร็วนี้ๆซึ่งหมายความว่าจะมีการเปิดตัวของHonda CR-V รุ่น Production กันอีกครั้งหนึ่งต่อจากครั้งที่แล้วที่ผ่านมาซึ่งทำให้ Honda CR-V ครั้งนี้ที่ยุโรปไม่น่าสนใจเหมือนทุกๆครั้งที่ Honda เปิดตัวในแต่ละครั้ง

อย่างที่เห็นผ่านๆมาจะว่าไปแล้ว version ที่ผ่านมาๆของอเมริกาและญี่ปุ่น Honda CR-V Generation รุ่นที่4มาด้วยรูปโฉมที่มีความดุดันมากขึ้น แผงกระจังหน้ามีการออกแบบของHonda กันชนหน้าและกนชนหลัง ส่วนสเกิร์ตด้านข้างซึ่งทำให้ดูต่ำไปมากจากที่ควรจะเป็นและเพิ่มรูปทรงที่ลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์สำหรับรายละเอียดทางด้านเครื่องยนต์และเทคนิคลูกเล่นต่างๆ Honda CR-Vตัวนี้ยังไม่มีการ
เปิดเผยข้อมูลตรงส่วนนี้ แต่ได้ยินมาว่า มีเครื่องยนต์ที่เป็นทางเลือกของผู้ขับขี่ละผู้ที่ชื่นชอบและได้ขับรถรุ่น Honda CR-V รุ่นไหนก็ตาม มีเครื่องยนต์ ดีเซล1.6ลิตรขนาด118แรงม้า ว้าว!มาให้ผู้ที่ชื่นชอบ Honda CR-V ครั้งนี้ สำหรับชาวยุโรปไม่น่าควรพลาดไปเลือกชมและนำมาใช้ครั้งนี้ด้วยส่วนข้อมูลต่างๆ คงจะมีการเปิดเผยกันในงานเปิดตัวของ Honda CR-V Generation รุ่น Production ในงาน Geneva Motor Show 2012 ในวันที่ 6 มีนาคม ที่กำลังจะมาถึงนี้

2012 Mini Cooper Roadster รถคันจิ๋วแต่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ


2012 Mini Cooper Roadster  เปิดตัวกันไปแล้วที่มหกรรมยานยนต์ในสหรัฐอเมริกาช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งออกมาให้เลือกอีกหนึ่งรุ่นนอกเหนือ Mini Hatch, Mini Clubman, Mini Convertible, Mini Countryman, Mini Coupe 5 รุ่นก่อนที่ทางค่าย มินิ ปล่อยออกมา โดยเปิดตัวรุ่นที่ 6 เป็น รถจิ๋วเปิดประทุนแบบนั่ง 2 คน แบบแรกของทางค่ายเลย Mini Cooper Roadster มีตัวถัขนาด 3.728-3.758 เมตร กว้าง 1.683 เมตร และสูง 1.384-1.390 เมตร 2ประตู
ตัวถังที่ดัดแปลง จาก มินิ คอนเวอร์ทิเบิล โดยปรับปลี่ยนรูปแบบและความสูง ส่วนประทุนหลังคามีเพียงแค่สีเดียวคือสีดำ ที่ทำจากผ้าแฟบริคหลายชั่น และเปิดปิดด้วยระบบกึ่งอัตโนมัติที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องลุกออกจากรถเมื่อต้องการเปิดหรือปิดมัน  เครื่องยนต์ติดตั้งแบบ DOHC 4 สูบเรียง 1,598 ซีซี 90 กิโลวัตต์ 122 แรงม้าสามารถทำความเร็วได้ถึง199 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบเกียร์แบบ 6 จังหวะเป็นแบบอัตโนมัติ แต่เจ้า
Mini Cooper Roadster เป็น 3รุ่นย่อยคือ Mini Cooper Roadster ,Mini Cooper S Roadster และ Mini John Cooper Works Roadster ทั้ง 3 รุ่นความเร็วของเครื่องยนต์จะแตกต่างกัน ทางค่ายที่เปิดตัว 2012 Mini Cooper Roadster  มาแล้วแต่ยังไม่ได้ตั้งราคา แต่คาดว่าถ้านำเข้ามาในประเทศไทยแล้วน่าจะตกอยู่ที่ราวๆ 1 ล้านกว่าบาท ผู้ที่สนใจรองติดต่อไปที่โชว์รูม ทางค่าย Mini  ทั่วประเทศ  

“ปอร์เช่ GT3 RS 4.0”พร้อมขายเศรษฐีไทย18ล้านบาท

       ยูมา มอเตอร์ส นำรถสปอร์ตสุดหรู “ปอร์เช่ GT3 RS 4.0” ที่ผลิตขึ้นเพียง 600 คันทั่วโลก มาเอาใจบรรดาผู้คลั่งใคล้ความเร็วให้ได้สัมผัสความแรงระดับ 500 แรงม้า ด้วยสนนราคาที่เศรษฐีกระเป๋าหนักพร้อมจ่าย 18 ล้านบาท
      
       สำหรับการพัฒนารถสปอร์ตคันนี้ถือเป็นการผสมผสานคุณลักษณะทั้งหมดของรถสปอร์ตที่ใช้สำหรับลงแข่งขันในรายการจีที 3 กับรถยนต์เพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวันจริงๆ เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ด้วยลักษณะเด่นของการขับขี่แบบมอเตอร์สปอร์ต โดยใช้เครื่องยนต์ 6 สูบ ความจุ 4 ลิตร ซึ่งเป็นเครื่องยนต์สมรรถนะสูงสุดในบรรดาเครื่องของปอร์เช่ รุ่น 911 ออกแบบโดยทีมวิศวกรเฉพาะด้านเพื่อการพัฒนารถแข่งโดยตรง การทำงานกระบอกสูบถูกออกแบบให้มีช่วงชักสั้น เลือกใช้เพลาข้อเหวี่ยงที่ผลิตจากไทเทเนียม ซึ่งได้รับการยอมรับว่าแข็งแกร่งทนทาน มีอัตราส่วนกำลังอัด 12.6:1 สามารถสร้างกำลังได้สูงสุด 368 กิโลวัตต์ หรือ 500 แรงม้าที่ 8,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 460 นิวตันเมตรที่ 5,750 รอบต่อนาที
      
       ระบบเกียร์แบบสปอร์ต 6 สปีด สามารถทำความเร็วที่ 200 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 12 วินาที และทำความเร็วได้สูงสุด 310 กม./ชม. โดยเพิ่มความเร้าใจด้วยการติดตั้งโหมดสปอร์ตที่คอนโซลด้านหน้ามีปุ่มกดไว้ตรงกลาง สามารถเพิ่มแรงบิดในช่วงรอบปานกลางโดยจะทำให้มีแรงบิดเพิ่ม 35 นิวตันเมตรโดยที่รอบไม่เปลี่ยนแปลง ในขณะที่แรงบิดสูงสุดยังคงที่
       GT3 RS 4.0 ได้รับการเสริมแคชซีส์ให้มีคุณสมบัติโดดเด่นเพื่อการแข่งขันโดยปรับปรุงระบบรักษาเสถียรภาพการทรงตัวใหม่ ด้วยระบบอิเล็คทรอนิกที่สามารถเลือกเปิด-ปิดการทำงานได้ คุณสมบัติของชิ้นส่วนที่ใช้ประกอบเป็นแคชซีส์มีน้ำหนักเบาทำจากอลูมิเนียม ชนิดพิเศษพร้อมการตั้งค่าความแข็งของสปริง ในสเปคเดียวกันกับ 911 GT เรซซิ่ง คาร์ ซึ่งเป็นรถในสนามแข่งด้วยการเพิ่มขดลวดสปริงที่ด้านหน้าและการตั้งค่าสปริงใหม่ เช่นเดียวกับสปริงของรถแข่งจริงในสนาม
      
       ทั้งนี้ วิศวกรทำการปรับปรุงฟายวีลใหม่ให้สามารถรองรับแรงบิดได้สูง ท่อไอดีของรถออกแบบให้มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่แต่ระยะท่อสั้นลง ซึ่งทำให้ท่อรูปกรวยนี้ดูดอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ กรองอากาศคัดพิเศษผลิตจากคาร์บอน และหม้อกรองใหญ่ใส้กรองทำจากกระดาษชนิดบางพิเศษ มีแรงต้านทานน้อยซึ่งเป็นแบบที่ใช้ในรถแข่งช่วยให้สามารถลดแรงต้านทานอากาศลงได้ถึง 10% ในขณะที่ไอเสียจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ผ่านระบบกรองมลพิษตามมาตรฐานยูโร 5
      
       สำหรับรูปลักษณ์ตัวถังด้านบนออกแบบให้มีทรงโค้งตามหลักอากาศพลศาสตร์ เมื่ออากาศเคลื่อนประทะตัวรถจะสร้างแรงกดเพิ่มขึ้นในบริเวณเพลาหน้า และเมื่ออากาศไหลผ่านสปอร์ยเลอร์หลัง ลักษณะฐานล้อหลังที่กางออกทำให้รถเข้าสู่ภาวะสมดุล ซึ่งหมายถึงระบบแอโรไดนามิคทำงานเต็มรูปแบบทำให้รถมีเสถียรภาพมากขึ้น
      
       ด้านความสำคัญของการออกแบบชิ้นส่วนต่างๆ อยู่ที่การเลือกวัสดุที่มีน้ำหนักเบามาเป็นส่วนประกอบ เช่น เบาะบักเก็ตซีท ทำจากวัสดุพิเศษ, ฝากระโปรงหน้าทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ที่มีคุณสมบัติของความแข็งแกร่งเหนือกว่าเหล็กแต่น้ำหนักน้อยกว่ามาก ซุ้มหน้าและกันชนหน้าผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ กระจกหลังและแผงดักลมด้านหลังที่ติดอยู่กับหน้าต่างทำจากเส้นใยโพลียูรีเทนชนิดเสริมแรง ในขณะที่พลาสสติกครอบด้านหลังทำจากวัสดุพิเศษเสริมใยแก้ว กระจกด้านหลังเป็นโพลีคาร์บอเนท ชีท ลักษณะโปร่งแสง น้ำหนักเบา ทนแรงกระแทก ผลิตจากโพลีคาร์บอเนทชนิดที่ใช้ในรถแข่งขันตามมาฐาน FIA แบตเตอรี่เลือกใช้แบบลิเธียมไอออน ออกแบบเป็นพิเศษด้วยการลดน้ำหนักและบำรุงรักษาง่าย
       ด้วยคุณสมบัติของการออกแบบและการเลือกใช้วัสดุ ทำให้น้ำหนักของ GT3 RS 4.0 พร้อมน้ำมันเชื้อเพลิงเต็มถังมีน้ำหนักรวมเพียง 1,360 กิโลกรัม เท่านั้น ส่งผลให้อัตราส่วนของแรงม้า/น้ำหนักอยู่ในสัดส่วน 2.72 กก./1 แรงม้า ซึ่งต่ำกว่ามาตรฐานของรถระดับเดียวกันที่มีสัดส่วนถึง 3 กก./1แรงม้า
      
       ขณะที่การยึดเกาะถนนใช้ยางแบบสปอร์ตสมรรถนะสูงทั้ง 4 ล้อ ล้อหน้าขนาด 245/35 ZR 19 และล้อหลังขนาด 325/30 ZR 19 พร้อมระบบตรวจสอบแรงดันลมยางอัตโนมัติ เลือกใช้ดิสก์เบรกที่ทำจากเซรามิก โดยเส้นผ่านศูนย์กลางจานเบรกหน้าขนาด 380 ม.ม. และขนาด 350 ม.ม.สำหรับล้อหลัง พร้อมระบบระบายอากาศที่ออกแบบเป็นพิเศษ โดยนำระบบลมส่งผ่านท่อช่วยลดความร้อนของจานเบรก พร้อมระบบล็อคล้อเป็นแบบเซ็นทรัลล็อคที่ดุม (ออฟชัน) แทนการใช้น็อตล้อแบบรถทั่วไป ทำให้ผู้ขับขี่ได้อารมณ์ความรู้สึกแบบรถแข่งในสนาม
      
       “ปอร์เช่ GT3 RS” เวอร์ชัน 4.0ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 600 คันทั่วโลก และพร้อมให้เศรษฐีชาวไทยจับจองแล้ววันนี้ ด้วยสนนราคา 18 ล้านบาท
      
      
      
       

สเปก “ซูซูกิ สวิฟท์” อีโคคาร์น้องใหม่…ราคา 3 แสนปลาย


    ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย จัดทริปเชิญสื่อมวลชนกลุ่มย่อยมาลองขับอีโคคาร์น้องใหม่ “ซูซูกิ สวิฟท์” โดยใช้เส้นทางกรุงเทพฯ-ปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก่อนมีคิวเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 21 มีนาคมนี้
     
       สำหรับ สวิฟท์ โฉมใหม่ หรือเจเนอเรชันที่ 2 การทำตลาดในไทยจะแบ่งเป็น 3 เกรด คือ GA, GL และ GLX โดยทั้งหมดวางเครื่องยนต์เบนซิน รหัส K12B ขนาด 1242 ซีซี 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบ VVT วาล์วแปรผันทั้งฝั่งไอดี-ไอเสีย ให้กำลังสูงสุด 91 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 118 นิวตันเมตรที่ 4,800 รอบต่อนาที รองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี 20
      
      
       ระบบส่งกำลังใช้เกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง CVT และเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ซึ่งในเกรด GA และ GL มีให้เลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดา ขณะที่เกรด GLX จะประกบเกียร์อัตโนมัติเท่านั้น
     
       ด้านมิติตัวถังใหญ่กว่าโมเดลแรกนิดๆ (ที่วางเครื่อง 1.5 ลิตร) ด้วยความยาว 3,850 มม. กว้าง 1,695 มม. สูง 1,510 มม. ระยะฐานล้อ 2,430 มม. ความสูงใต้ท้องรถ 140 มม. ซึ่งเกรด GA และ GL ใช้ล้อกระทะ (พร้อมฝาครอบ) ขนาด 15 นิ้ว ประกบยาง 175/65R15 ส่วนตัวท็อป GLX มากับล้ออัลลอย 16 นิ้ว ยาง 185/55R16
     
       ช่วงล่างด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง เหล็กกันโคลง หลังทอร์ชันบีม คอยล์สปริง พวงมาลัยแร็กแอนด์พิเนียนผ่อนแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า เกรด GA, GL มีรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 4.8 เมตร และ GLX 5.2 เมตร 
     
       ในส่วนของเบรกหน้าดิสก์ หลังดรัม พร้อมระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD จัดเป็นมาตรฐานทุกรุ่น แต่รุ่น GA GL จะติดถุงลมนิรภัยด้านคนขับมาลูกเดียว ส่วน GLX เป็นคู่หน้าสำหรับคนขับและผู้โดยสาร
      
      
       ออปชันอำนวยความสะดวก-ปลอดภัยระดับ กุญแจอัจฉริยะ (เปิดประตูเข้า-ออกโดยไม่ต้องกดรีโมท และปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์) พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทาง เครื่องเสียงเล่นวิทยุ CD MP3 ได้ 1 แผ่น พร้อมช่องต่อ USB จะมีในเกรด GL และ GLX
     
       ตัวท็อป GLX ยังเสริมแอร์อัตโนมัติ ระบบทำความร้อน สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย ไฟตัดหมอกหน้า กระจกมองข้างฝังไฟเลี้ยว และไล่ฝ้ากระจกหลัง ซึ่งผิดกับรุ่นล่าง GA ที่นอกจากจะไร้ออปชันดังกล่าวแล้ว ยังไม่มีเครื่องเสียงติดมาให้ด้วย
     
       ..นั่นเป็นสเปกคร่าวๆ ที่ซูซูกิเปิดเผยออกมาล่าสุด ส่วนราคาคาดว่าในรุ่นเริ่มต้น GA เกียร์ธรรมดา คงอยู่ประมาณ 3 แสนบาทปลายๆ และไล่เรียงขึ้นมาเป็น 4 แสนบาทในเกรด GL และตัวท็อป GLX ราคากว่า 5 แสนบาท อย่างไรก็ตาม บททดสอบของ สวิฟท์ เวอร์ชันอีโคคาร์  จะนำมาเสนอเร็วๆ นี้