หน้าเว็บ

ประกันภัยรถยนต์

วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2555

Honda Jazz Hybrid Vs Toyota Prius C ประกอบในเมืองไทยทั้งคู่

 ปีที่ผ่านมาถือว่าสาหัสกันมากสำหรับ Honda เรียกว่า หายไปจากเวทีรถยนต์ในเมืองไทยไปพักใหญ่ถึงกับต้องออกแคมเปญโฆษณาเรียกความมั่นใจจากทั้งลูกค้าและตัวเองกันทีเดียว?! ฉะนั้นการกลับมาครั้งนี้จะต้องสร้างความฮือฮาได้มากพอสมควร เพราะจะว่าไปแล้ว Honda เองในปีนี้ มีของดีให้อวดมากมายไม่ว่าจะเป็น All-New Civic , CR-V และที่เรากำลังจะพูดถึงในตอนนี้ก็คือ Jazz Hybrid ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในงาน Paris Motor Show 2010 และพร้อมจำหน่ายในยุโรปต้นปีนี้
 ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดหรือต้องทำให้เลื่อนออกไป ทาง Honda จะเดินสายการผลิต Honda Jazz Hybrid ที่โรงงานในเมืองไทยกลางปีนี้ เพื่อรุกตลาดรถแฮทแบ็ค 5 ประตูขนาดเล็กที่เป็นเจ้าตลาดอยู่ เพราะแม้ว่าหน้าตานั้นอาจจะให้ใหม่มากไม่ได้ แต่หัวใจมาใหม่ทั้งกล่อง นั้นทำให้ทาง Honda มั่นใจว่าจะสามารถกระตุ้นตลาดของ Jazz ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต่างไปจากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่หมดแบบ All-New เลยทีเดียว

 




พอพูดถึงรถไฮบริด หลายคนอาจจะเป็นห่วงเรื่องพื้นที่จุสัมภาระที่ต้องมีส่วนหนึ่งสูญเสียให้กับการจัดเก็บชุดแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ แต่สำหรับ Honda Jazz Hybrid ต้องบอกว่า หายห่วงในเรื่องนี้เพราะรถรุ่นนี้มาพร้อมระบบที่นั่งที่เรียกว่า Magic Seat ซึ่งเบาะทุกชิ้นสามารถถูกพับเก็บได้ทั้งหมด ส่วนฐานเบาะก็ถูกพับเก็บได้อีกต่อหนึ่ง เพื่อเพิ่มระดับความสูงของพื้นที่จุสัมภาระได้อย่างเต็มที่ ทำให้ปริมาตรจุสัมภาระเพิ่มจาก 300 ไปเป็น 831 และ 1,320 ลิตร ตามลำดับ

Honda Jazz Hybrid มีรูปโฉมที่แตกต่างออกไปจาก Jazz รุ่นมาตรฐานตรงแผงกระจังหน้าที่เป็นชิ้นงานโครเมี่ยม ไฟหน้ามีสีแกมฟ้าในแบบไฮบริด กันชนหน้าและหลังได้รับการออกแบบใหม่ โดยมีสีเขียว Lime Green เป็นสีรถต้นแบบในการทำตลาด ในขณะที่ระบบขับเคลื่อนเป็นแบบ Integrated Motor Assst ( IMA ) ซึ่งมีใช้ในรุ่น Insight และ CR-Z ซึ่งประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน i-VTEC 4สูบ ความจุ 1.3 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 10 กิโลวัตต์ ควบคุมผ่านเกียร์ CVT สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลา 12.6 วินาที โดยมีความเร็วสูงสุด 177 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนอัตราส่วนการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ 4.5 ลิตร/ 100 กิโลเมตร โดยทาง Honda อ้างว่า Honda Jazz Hybrid คือรถเกียร์อัตโนมัติในตลาด B-Segment ที่ปล่อยมลพิษน้อยที่สุดคือเพียง 104 กรัม/กิโลเมตร เท่านั้น



 






 










ข้ามมาฝั่งของทาง Toyota ที่เป็นเจ้าของตลาดโดยรวมในเมืองไทย แต่ 2-3 ปีที่ผ่านมา ถูกรุกพื้นที่จากคู่แข่งสำคัญๆ อย่าง Chevrolet และ Ford จากเมืองลุงแซมที่นับวันยิ่งน่ากลัวมากขึ้นด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ตลาดรถขนาดเล็กแต่กินพื้นที่กว้างอย่างอีโคคาร์มี Nissan ครองตลาดแบบไร้คู่แข่งมาตลอดด้วยยอดขายรวมล่าสุดมากกว่า 5,500 คัน เพราะคู่แข่งที่คิดว่าน่าจะน่ากลัวอย่าง Honda Brio ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ในขณะที่ Mitsubishi Mirage และ Suzuki Swift เพิ่งประกาศเข้ามาขอส่วนแบ่งไปไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ฉะนั้น Toyota จึงให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวของคู่แข่งมากเป็นพิเศษ เพราะหากพลาด อาจจะไม่ใช่แค่การสูญเสียโอกาสและตลาดในเมืองไทยเท่านั้น แต่การที่ในปี 2015 จะเป็นปีของการเริ่มต้นของ AEC หรือ ASEAN Economic Community ที่ทำให้อาเซียนเป็นตลาดที่ใหญ่อันดับ 3 ของโลกรองจากจีนและอินเดีย ฉะนั้นกลยุทธหลังๆ จะไม่ใช่แค่มองว่า ผลิตออกมาแล้วจะขายให้เฉพาะคนไทยเท่านั้น แต่ยังต้องมองถึงการส่งออกไปจำหน่ายในประเทศอาเซียนอื่นๆด้วย หรือมองข้ามช็อตไปอีกนิดด้วยการผลิตเพื่อส่งออกไปจำหน่ายในจีนหรืออินเดีย เพื่อลดต้นทุนการผลิตต่อหน่วยนั้นทำให้ Toyota จำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างกับการเคลื่อนไหวของ Honda

 


นั้นคือที่มาของความเป็นไปได้ในการเริ่มจำหน่าย Prius C เร็วกว่ากำหนดที่ควรจะเป็นก่อนที่จะมีการผลิตในประเทศในปี 2013 อย่างเต็มตัว ล่าสุดทาง Toyota  มีแผนในการนำเข้า Prius C มาทำตลาดในจำนวนจำกัดระดับหนึ่งที่ยังไม่มีการสรุปตัวเลขออกมาแน่นอนว่ากี่คัน เพราะต้องขึ้นอยู่กับฟีดแบ็คจากลูกค้าและความเคลื่อนไหวของคู่แข่งด้วย เนื่องจากเป็นไฟต์บังคับ ไม่ได้ตั้งใจออกมาชกจริงๆ! อีกอย่างแผนในการผลิต All-New Yaris ก็ยังไม่มีเพราะในปี 2013 บริษัท Toyota เตรียมส่งอีโคคาร์เข้ามาแล่นในตลาดที่ใหญ่กว่าแม้ว่าราคาต่อคันจะน้อยกว่าก็ตาม การส่ง Prius C เข้ามาเติมเต็มในส่วนนี้ดูเหมือนว่าจะ Make Business Sense มากกว่ามีทั้ง Yaris และอีโคคาร์ที่กินตลาดกันเองอยู่!?

Toyota Prius C มีขุมพลังไฮบริดแบบ Bedicated Hybrid ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว ให้กำลังสูงสุด 99 แรงม้า เกียร์ CVT โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ 35-40 กิโลเมตร / ลิตร ตามมาตรฐานการทดสอบของญี่ปุ่น (ใช้ชื่อรุ่นว่า Aqua ได้เริ่มจำหน่ายไปแล้วในประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา) มีมิติตัวถังใหญ่กว่า Yaris เจนเนอเรชั่นใหม่เล็กน้อย คือยาว 3,995 มิลลิเมตร กว้าง 1,695 มิลลิเมตร และสูง 1,445 มิลลิเมตร มีระยะฐานล้อที่ 2,550 มิลลิเมตร

อย่างไรก็ตามการวิเคราะห์และข้อมูลทั้หมดที่กล่าวมาข้างต้นอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลล่าสุดที่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานะการณ์














ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น